ตุลาคม 3, 2023

สาระนะ แหล่งรวบรวมข่าวสาร แห่งใหม่

สาระนะ แหล่งรวบรวมข่าวสาร แห่งใหม่ ข่าวสารทั้วไป ข่าวบันเทิง ข่าวไอที ข่าวใหม่ อัพเดททั้งวัน

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ผมเคยไปเป็นเซลล์อยู่ที่เต้นท์รถ แล้วบังเอิญได้ไปรู้จักกับรุ่นพี่คนนึง ชื่อว่า พี่เอฟ ซึ่งทำงานอยู่ที่เต้นท์รถเต้นท์นึง แต่ในนามฟรีแลนซ์ไม่ใช่พนักงานประจำ จะเข้ามาก็ต่อเมื่อทางเจ้าของเต้นท์มีงานให้ทำ แกจะทำงานเกี่ยวกับเรื่องของสินเชื่อ ไฟแนนซ์ และคอยรับรถ – ส่งรถ ถ้ามีใครต้องการจะใช้งานอะไรก็จะโทรตาม ซึ่งงานนี้แกพึ่งมาเริ่มทำตอนที่ผมเลิกทำเต้นท์รถแล้ว แล้วบังเอิญเมื่อปีที่แล้วผมเจอแก แกจึงได้เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง…

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2558 – 2559 พี่เอฟได้งานมางานนึงจากเฮียเจ้าของเต้นท์ว่า มีลูกค้าเป็นคุณลุงคนหนึ่ง แกเป็นคนมีฐานะนิดนึงและที่บ้านแกก็มีรถหลายคัน… แกจะซื้อรถคันนึงที่เต้นท์ แล้วแกก็จะเทิร์นรถที่บ้านแกคันนึงด้วย หลังจากคุยราคากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณลุงแกก็ให้ไปรับรถคันที่เทิร์นกลับ พร้อมกับนำรถคนที่ซื้อจากเต้นท์ไปส่งที่บ้านแกให้ด้วย ซึ่งอยู่จังหวัดจังหวัดนึงทางภาคอีสาน 

วันต่อมา พี่เอฟและคนขขับรถก็เอารถขึ้นรถสไสด์แล้วขับไปส่งยังบ้านคุณลุง กว่าจะไปถึงเวลาก็โพล้เพล้แล้ว ทีนี้ระหว่างที่กำลังเอารถลง พี่เอฟบอกว่า สังเกตเห็นผู้หญิงคนนึง อายุแล้วประมาณ 30 กว่าๆ สวย หน้าตาดี ยืนอยู่แถวโรงจอดรถ ยืนนิ่งๆและหันมายิ้มให้ พี่เอฟก็ยิ้มตอบ… 

แล้วพี่เอฟก็หันมาจัดการเอารถลงต่อพร้อมกับพูดคุยกับคุณลุง แต่พอพี่เอฟหันกลับไปดูที่โรงจอดรถอีกทีกลับไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว พี่เอฟไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าคงเป็นลูกสาวของคุณลุงมายืนดูรถหรือเปล่า… 

หลังจากที่นำรถลงมาเสร็จเรียบร้อย คุณลุงก็พาพี่เอฟไปดูรถคันที่จะเทิร์นในโรงจอดรถ  แต่สายตาเจ้ากรรมของพี่เอฟดันบังเอิญมองไปเห็นรถคันนึงจอดอยู่ริมสุด ซึ่งจริงๆมันถูกคลุมผ้าเอาไว้ แต่วันนั้นคุณลุงเปิดผ้าคลุมออกพอดี สภาพรถคือดีมาก รถสวยมาก… 

พี่เอฟเห็นรถคันนี้ครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาทันที ด้วยทรงรถ สีรถ ล้อแม็กสวย ออฟชั่นทุกอย่างมันดีมาก ในระหว่างที่กำลังรอกุญแจรถจากคุณลุง พี่เอฟก็ไปยืนมองรถคันนั้นแบบไม่ละสายตา สักพักคุณลุงเดินมาพี่เอฟจึงไปจัดการเอารถคันที่เทิร์นขึ้นรถสไลด์จนเสร็จ…

“ลุง…รถคันนี้ ดูทรงแล้วเหมือนจอดเอาไว้นานแล้ว ยังใช้งานอยู่มั้ย” พี่เอฟเอ่ยถามคุณลุง

“ไม่ค่อยได้ใช้นะ ไม่มีใครขับ ก็มีแต่ติดเครื่องเฉยๆ ทำไมละ สนใจหรอ??” คุณลุงถามพี่เอฟกลับ

“สนใจครับ คุณลุงขายมั้ย ผมจะเอาไว้ใช้เอง ผมรู้สึกชอบยังไงก็ไม่รู้” พี่เอฟตอบ

คุณลุงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด คุ่นคิดอยู่ครู่นึง ไม่รู้จะเอายังไงดี จึงบอกว่า “ก็ลองดู…นะ ถ้าสตาร์ทติดก็จะขายให้” พี่เอฟได้แต่แปลกใจว่าสิ่งที่คุณลุงพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร แล้วคุณลุงก็พูดขึ้นมาต่ออีกว่า “อะ ลองดู ลองเอากุญแจไปสตาร์ทรถดูก่อน”

ปรากฎว่าพี่เอฟนำกุญแจรถไปสตาร์ท …รถติดตามปกติ… คุณลุงเลยบอกว่า “อะ สตาร์ทติด งั้นลองขับได้นะ เดี๋ยวลุงนั่งไปด้วย” พี่เอฟลองขับวนแถว ๆ หมู่บ้าน แล้ววนกลับมาที่บ้านคุณลุง สรุปรถขับได้ปกติ 

ตอนนั้นราคารถรุ่นนี้ตามท้องตลาดอยู่ที่ประมาณ 5 แสนกว่าบาท แต่คุณลุงบอกว่า “เอาอย่างงี้แล้วกัน คันนี้เอาไป 4 แสน” พี่เอฟรู้สึกดีใจมากที่ได้รถราคาดีเพราะไมล์วิ่งน้อยด้วย รถ 7 ปี วิ่งแค่แค่ห้าหมื่นโลเอง ถือว่าเป็นรถที่วิ่งน้อยมาก ๆ 


คุณเอฟได้ขอดูภายมนรถ เปิดเก๊ะเก็บของดูก็พบมีเอกสารสำเนาเล่มรถอยู่ในเก๊ะ แต่นอกจากเอกสารแล้วมันยังมีตุ๊กตาพวงกุญแจรูปเจ้าสาวอยู่ พี่เอฟไม่ได้เอะใจอะไร เห็นว่าน่ารักดี จึงหยิบมาดูแล้วก็เก็บเข้าไว้ในเก๊ะเหมือนเดิม

หลังจากตกลงซื้อขายเซ็นเอกสารอะไรกันเสร็จเรียบร้อย ก่อนกลับคุณลุงก็ได้บอกกับพี่เอฟเอาไว้ว่า ให้มาเอาเอกสารรถคันนี้ตอนที่เอาเอกสารรถที่เทริน์มาให้ เพราะได้คุยกับเจ้าของเต้นท์แล้วว่าเอกสารมันจะตามมาที่หลัง 

พี่เอฟขับรถกลับมาบ้านใช้ชีวิตปกติประมาณ 3-4 วัน จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ 5…

คนที่บ้านเริ่มทักว่า รู้สึกแปลกๆ เหมือนจะเห็นผู้หญิง คนนึงยืนอยู่แถวๆรถคันใหม่ที่จอดอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นใคร ตอนนั้นพี่เอฟไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าแม่คงจะตาฝาด แต่มีอยู่ช่วงนึงที่พี่เอฟขับรถไปทำงานและต้องอยู่เคลียเอกสารดึกๆดื่นๆ น้องที่ทำงานเริ่มทักว่า “เอะพี่ ทำไมผมรู้สึกว่า 2-3 คืนที่ผ่าน ผมเห็นผู้หญิงอยู่รอบๆรถพี่บ่อยๆ” พี่เอฟเริ่มเอะใจคิดว่ารถคันนี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ …

มีอยู่วันนึง พี่เอฟเห็นว่ารถมันรกๆ ก็เลยเอาเอกสารที่วางเกะกะใส่ไว้ในเก๊ะหน้ารถ  แต่เก๊ะมันเต็ม จึงนำเก็บตุ๊กตาเจ้าสาวขึ้นไปไว้บนห้องนอน ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครเห็นผู้หญิงเดินวนเวียนรอบรถอีก แต่….เธอเข้ามาอยู่ในบ้านแทน ซึ่งคนที่เห็นคือคุณแม่กับคุณยายของพี่เอฟนั่นเอง 

คุณแม่กับคุณยายบอกพี่เอฟฟังว่าเห็นผู้หญิงคนนั้นแว่บๆ บ่อยๆ แถวๆห้องนอนพี่เอฟ ลักษณะผมยาว ใส่กระโปรงยาวคลุมเข่าและเสื้อเชิ้ตทำงานปกติ 

พี่เอฟเริ่มรู้สึกแล้วว่ารถคันคนนี้มันแปลก ๆ  วันดีคืนดีขับรถไปทำธุุระข้างนอกจอดรถปกติ แต่พอกลับมาขึ้นรถจะสตาร์ท ปรากฎว่าสตาร์ทไม่ติด จนมีอยู่คืนนึงพี่เอฟฝันว่า ผู้หญิงคนนี้ใส่ชุดทำงาน กระโปรงยาวคลุมเข่า เดินมาหา ตอนแรกภาพไม่ค่อยชัด พอมองไปสักพักชัดเลย… !!! เป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่เห็นที่บ้านคุณลุง 

ผู้หญิงคนนี้มาบอกว่า “ขออยู่ด้วยไม่นานหรอก เดี๋ยวถ้าเจอคนที่รอแล้วก็จะไป…. แต่ถ้าอยากให้รถใช้งานไม่มีปัญหาอะไร เอาฉันกลับไปใส่ไว้ในเก๊ะเหมือนเดิม…”

พี่เอฟสุดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนเช้า… หันไปตรงโต๊ะทีวี ที่กับขนลุก เมื่อว่าเห็นตุ๊กตาเจ้าสาววางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งจริงๆ มันเก็บอยู่ในลิ้นชักตู้ แต่มันขึ้นมาตั้งอยู่หน้าโต๊ะได้อย่างไร  แต่อีกใจก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แอบกลัวบ้าง แต่ผู้หญิงคนนี้เค้าไม่ได้มาแบบเลวร้ายอะไร จึงนำเอาตุ๊กตากลับไปเก็บไว้ในเก๊ะภายในรถเหมือนเดิมตามที่ผู้หญิงคนนี้บอก…

1 เดือนผ่านไป… ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งวันนึง เจ้าของเต้นท์ให้พี่เอฟไปพบกับลูกค้าท่านนึง ชื่อว่า คุณโจ  เพื่อเสนอขายรถยุโรปยี่ห้อนึงราคาหลายล้านบาท พี่เอฟขับรถไปพบลูกค้าตามปกติแถว ๆ ชานเมือง ไปถึงก่อนเวลานัดหมายจึงจอดรอลูกค้าก่อนถึงจุดที่นัด พอคุณโจมาถึงก็มาจอดรถใกล้ ๆ กับรถคันที่พี่เอฟขับ พี่เอฟมองผ่านกระจกข้าง เห็นคุณโจเดินลงจากรถ หันมามองแล้วอมยิ้มให้ แต่พอคุณโจหันไปมองทะเบียนรถ อยู่ ๆ คุณโจก็ยืนนิ่ง ตัวสั่น ทรุดลงไปนั่งร้องไห้กับพื้น… 

พี่เอฟรีบเปิดประตูออกไปถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” คุณโจร้องไห้อยู่พักใหญ่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาปาดน้ำตาพร้อมกับถามพี่เอฟว่า “รถคันนี้ ของน้องหรอ?” พี่เอฟตอบว่า “ครับ ผมพึ่งซื้อมา” คุณโจถามต่ออีกว่า “น้องไปซื้อมาจากไหน?” ในใจตอนนั้นพี่เอฟเริ่มสงสัยจึงถามกลับไปว่า “คุณมีอะไรกับรถคันนี้หรือเปล่าครับ?” 

“น้องไปซื้อมาจาก คุณลุงท่านนึงใช่มั้ย หรือว่าซื้อที่ไหน? จังหวัดอะไร?” พี่เอฟบอกจังหวัดไป คุณโจก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “ใช่แน่ๆ ทะเบียนก็ใช่” หลังจากนั้นคุณโจก็บอกว่า “ขอดูเอกสารรถหน่อยได้มั้ย” พี่เอฟก็บอกว่า “มีแต่สำเนานะครับ”  หลังจากดูเอกสารเรียบร้อยเห็นนามสกุล คุณโจก็พูดขึ้นมาเลยว่า “ชัดเลย…”

หลังจากที่รู้สึกสงสัยมานาน พี่เอฟตัดสินใจถามคุณโจว่า “คุณครับ ขออนุญาตเถอะ คุณมีอะไรกับรถคันนี้หรือเปล่า” คุณโจเลยเล่าให้พี่เอฟฟังว่า เมื่อหลายปีก่อน คุณโจรู้จักกับผู้หญิงคนนึง ชื่อว่า คุณแอน คุณโจกับคุณแอนคบกันมาหลายปี จนถึงขั้นมีแพลนที่จะแต่งงานกัน แต่คุณแอนเกิดป่วยและเสียชีวิตลงเสียก่อน คุณโจทำใจไม่ได้จึงย้ายจากจังหวัดนั้นขึ้นมาอาศัยอยู่แถวย่านชานเมืองกรุงเทพ  ประกอบกับคุณโจไม่กล้ากลับไปเผชิญหน้ากับคุณพ่อคุณแม่ของคุณแอน เพราะทำใจไม่ได้ที่จะกลับไปที่บ้านหลังนั้น…แล้วก็พึ่งมารู้ตอนหลังว่า ทางพ่อแม่ของคุณแอนนั้นก็ได้ย้ายบ้านกลับไปอยู่ภูมิลำเนาบ้านเกิดแล้วเช่นกัน 

คุณโจได้หยิบรูปคุณแอนที่เก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ออกมาให้พี่เอฟดูแล้วบอกว่า “นี่ไง แฟนพี่ … ที่เสียไป”

พอพี่เอฟเห็นรูปก็ขนลุก จึงถามคุณโจต่อว่า “ขอถามอีกอย่างนึง ถ้าผมหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาพี่จะสะดุดตาหรืออะไรมั้ย?” แล้วพี่เอฟก็เดินไปที่รถพร้อมกับหยิบตุ๊กตาเจ้าสาวที่เก๊ะออกมา 

คุณโจร้องไห้ในทันทีที่เห็นตุ๊กตาตัวนั้น พร้อมกับพูดว่า “แปปนึงนะ” และเดินไปที่รถพร้อมกับหยิบตุ๊กตาอีกตัวนึงออกมาเป็น …ตุ๊กตาเจ้าบ่าว… ที่ใส่ชุดคู่กัน 

พี่เอฟอยู่ดีๆ ก็หลังเย็นวาบขึ้นมาทันที แล้วคุณโจก็พูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวเราเข้าไปคุยกันต่อข้างในร้านกาแฟนะ” หลังจากที่พี่เอฟคุยเรื่องรถคันที่จะซื้อกับคุณโจเสร็จเรียบร้อย คุณโจไม่ต่อราคาสักคำ พร้อมกับถามพี่เอฟขึ้นมาว่า “คุณเอฟครับ รถคันนี้ถ้าผมจะขอซื้อต่อคุณเอฟจะขายมั้ย?” พี่เอฟพูดแบบไม่คิดเลยว่า “ถ้ามันมีคุณค่าสำหรับคุณโจ ผมขายให้แน่นอนในราคาที่ซื้อต่อคุณลุงมาด้วย” 

คุณโจก็บอกคุณเอฟว่า “ไม่เป็นไร ผมซื้อต่อในราคาตลาดก็ได้ ผมให้ค่าเสียเวลา ให้ค่าดูแลรักษาไปด้วย ผมยินดีที่จะจ่ายเพื่อให้รถคันนี้มาอยู่กับผม”

แล้วคุณโจพูดขึ้นมาว่า “คิดถึงมากนะ คันเนี่ย…” 

เพราะรถคันนี้คุณโจเป็นคนเลือกให้คุณแอนเอง  และคุณแอนเองก็ชอบและรักรถคันนี้มากเหมือนกัน ซึ่งตอนที่คุณแอนเสียคุณโจทำใจไม่ได้จึงยกรถคันนี้ให้กับคุณพ่อของคุณแอนไป คุณโจไม่คิดว่าคุณพ่อคุณแอนจะเก็บรักษารถคันนี้มาจนถึงทุกวันนี้ 

พี่เอฟรู้สึกใจตื่นตันขึ้นมายังไงไม่รู้ และจบเรื่องทุกอย่างในวันนั้น คุณโจเรียกรถสไลด์มารับรถคันนั้นกลับบ้านทันที …. แต่ก่อนจะแยกกันคุณโจบอกคุณเอฟว่า รบกวนไปจัดการเรื่องเอกสารรถคันนี้ที่คุณลุงมาให้หน่อย และรบกวนขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับคุณลุงด้วย 

พอพี่เอฟกลับมาถึงบ้านก็รีบโทรหาคุณลุง หลังจากที่คุณลุงรับสายก็มีการนัดหมายวันและเวลามอบเอกสารกัน จนถึงวันนัดหมาย หลังจากรับเอกสารเสร็จ คุณเอฟก็ถามคุณลุงว่า “คุณลุงครับ คุณลุงรู้จักคุณโจมั้ยครับ” คุณลุงอึ้งในทันทีและพูดขึ้นมาว่า “อย่าบอกนะว่าเจอกับโจ” หลังจากนั้นพี่เอฟก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้คุณลุงฟัง พร้อมกับบอกว่ารถคันนี้ไปอยู่กับคุณโจแล้ว…

คุณลุงถอนหายใจเฮือกใหญ่… “นั่นไง… ลุงว่าแล้ว!! เค้ารอจริงๆ” 

พี่เอฟถามคุณลุงต่อว่า สรุปเรื่องราวมันเป็นยังไง คุณลุงจึงเล่าให้ฟังตั้งแต่ตอนแรกเลยว่า

…คุณโจ เป็นคนที่ดีมาก สัมมาคาราวะทุกอย่างดีหมด ทั้งๆที่เป็นคนที่มีฐานะ แต่กลับไม่ถือตัว มาหาคุณลุงคุณป้าอยู่เป็นประจำ คุณลุงรักคุณโจเหมือนลูกคนนึงเลยก็ว่าได้ และตอนที่คุณโจรู้ว่าคุณแอนป่วยหนัก คุณโจไม่ได้ทำงานทำการอะไรเลย ลาออกมาดูแลคุณแอนอยู่ที่โรงพยาบาลทุกวัน ที่คุณลุงจำได้คือคุณโจซื้อตุ๊กตาเจ้าบ่าว-เจ้าสาวมาให้คุณแอน คุณแอนเห็นก็ร้องไห้และบอกว่าจะขอเก็บเอาไว้จนกว่าจะหมดลมหายใน หลังจากคุณแอนเสียคุณลุงจึงนำตุ๊กตาเจ้าสาวมาใส่ไว้ในรถ 

หลังจากที่คุณแอนเสีย คุณพ่อไม่สามารถติดต่อหาคุณโจได้ ต่างคนต่างเงียบหายกันไป รถคันนี้คุณลุงไม่ได้คิดจะขายจึงเก็บเอาไว้อย่างดี แต่แม่บ้านคนดูแลทำความสะอาดหรือคนที่มาช่วยดูแลรถ มักจะเห็นคุณแอนมายืนมองอยู่ที่รถ 

ทุกครั้งที่มีคนมาขอซื้อรถ คุณแอนจะมาเข้าฝันบอกคุณลุงว่า อย่าพึ่งขาย ยังไม่ถึงเวลา และที่แปลกคือก่อนที่จะขายหรือมีคนมาขอดูรถ คุณลุงจะลองสตาร์ทซึ่งก็สตาร์ทติดปกติ แต่พอถึงเวลาที่คนมาดูรถกลับสตาร์ทไม่ติด ให้ช่างมาดูแล้วก็ไม่พบว่ามีปัญหาที่ตรงไหน แต่ไม่ว่าจะสตาร์ทยังไงก็ไม่ติดเลย

จนมันมีเหตุการณ์ก่อนที่พี่เอฟจะเดินทางมาประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านั้น คุณลุงฝันเห็นคุณแอนมาบอกว่า “คุณพ่อเดี๋ยวอีกประมาณเดือนกว่า ๆ จะมีคนมาหาพี่ที่บ้าน พร้อมกับรถ 1 คันและเอารถของพ่อกลับไป 1 คัน เค้าจะมาสนใจรถหนู พ่อขายให้เค้านะ โดยบอกเค้าไปว่า ถ้าเค้าสตาร์ทติดก็จะขายให้ พ่อจะรู้ได้ทันทีเลยว่า ใช่ หรือไม่ใช่ ถ้าคนนั้นสตาร์ทติดก็คือเค้าจะได้ซื้อรถคันหนูไป” และหลังจากนั้นคุณลุงก็ตื่น เรื่องราวทุกอย่างเป็นอย่างที่คุณลุงเล่า 

ซึ่งปัจุจบันเท่าที่พี่เอฟทราบมาคือคุณโจ ได้กลับไปพบคุณลุงที่บ้านแล้ว ได้ไปเห็นรูป ไปเห็นอัฐิของคุณแอน เหมือนเค้าสองคนได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว… เรื่องทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้ ….

ขอบคุณเรื่องจาก | คิดถึง จึงรอ| the ghost radio  ถอดความโดย คลังหลอน