กันยายน 27, 2023

สาระนะ แหล่งรวบรวมข่าวสาร แห่งใหม่

สาระนะ แหล่งรวบรวมข่าวสาร แห่งใหม่ ข่าวสารทั้วไป ข่าวบันเทิง ข่าวไอที ข่าวใหม่ อัพเดททั้งวัน

สวัสดีครับผมชื่ออั๋นมีประสบการณ์สยองมาให้เพื่อนได้อ่านกันครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำรวจบ้านผีกิจกรรมยอดฮิตของวัยรุ่นสมัยก่อน ซึ่งผมกับเพื่อนเองก็ไปบ่อยๆแต่ไม่เคยเจออะไรเลยซักครั้ง ทำให้ผมไม่เชื่อเรื่องผีมากนัก

วันหนึ่งเพื่อนผมได้ฟังรายการวิทยุเกี่ยวกับผีรายการหนึ่งที่คนโทรมาเล่าถึงโรงเรียนร้างแห่งหนึ่งที่มีประวัติว่าโรงเรียนถูกไฟไหม้แล้วมีนักเรียนเสียชีวิตจำนวนมากที่บันไดทางลงเพราะตรงนั้นมันแคบมากทำให้นักเรียนเหยียบกันตายแล้วโดนไฟคลอกตรงนั้น คนโทรเข้ามาเล่าว่าเข้าไปแล้วเจอผีตัวเป็นๆจนต้องวิ่งหนีกระเจิงไปคนละทิศละทางที่สำคัญมันอยู่จังหวัดเดียวกับที่พวกผมอยู่ กลุ่มผมเลยนัดกันจะไปลองของที่นั่นทันที

คืนนั้นผมขับรถยนต์โดยมีเอ๋กับนพเพื่อนซี้ที่ชอบลองดีบ้านผีเหมือนกันไปด้วย ผมขับออกนอกเมืองมุ่งสู่โรงเรียนร้าง ผมขับตามGPSผ่านทุ่งนาสองข้างทาง ไฟริมทางสลัวนานๆจะมีทีทำให้บรรยากาศระหว่างขับรถเหมือนเข้าไปอยู่ในพล็อตหนังผียังไงอย่างนั้น

เมื่อมาถึงโรงเรียนพวกเราลงจากรถยืนมองโรงเรียนที่ตั้งทะมึนอยู่ท่ามกลางความมืด ลมเย็นพัดเบาๆปะทะตัวจนขนลุกไปทั้งตัว ผมส่องไฟฉายเข้าไปทำให้เห็นว่าโรงเรียนนี้มีสองอาคารแต่อีกอาคารหนึ่งสภาพถูกไฟไหม้

“เฮ้ย ผีที่อยู่ข้างใน กูจะเข้าไปแล้วนะ ออกมาให้เจอหน่อย อยากเห็นอยากเจอ”ไอ้เอ๋ตะโกนท้าทายเหมือนทุกครั้งพร้อมกับเปิดประตูโรงเรียนเข้าไป

พวกผมเดินสำรวจอาคารที่ไม่โดนไฟไหม้ก่อน สภาพข้างในมีโต๊ะนักเรียนอยู่ทุกห้องมีเพียงฝุ่นที่จับตัวหนาอยู่ทั่วบริเวณ เดินจนทั่วก็ไม่มีอะไร พวกเราเลยเดินลงมายืนพักที่หน้าอาคาร ผมส่องไฟฉายสำรวจอาคารที่ไฟไหม้พอส่องไปถึงบันไดทางขึ้นที่มีประตูเหล็กเปิดอยู่ก็เห็นเงาคนยืนหน้าเหมือนแอบมองอยู่ พอผมส่องไฟไปก็หลบเข้าไปในอาคาร แต่ผมคิดว่าตาผมฝาดเลยไม่ได้บอกกับเพื่อน

“ปั้ง!!!” อยู่ดีๆเสียงเหมือนประตูห้องปิดอย่างแรงจนพวกเราสามคนสะดุ้งสุดตัวมองหน้ากันไปมา เสียงนั้นมาจากชั้นสองของอาคารเรียนที่ถูกไฟไหม้

“ใครวะ คนหรือผี เดี๋ยวกูไปหา มึงอยู่ตรงนั้นก่อนนะ”ไอ้นพตะโกนออกไป พวกเรารีบเดินขึ้นบันไดไปทันที แต่พอขึ้นไปถึงก็ต้องแปลกใจ ประตูห้องทุกห้องเปิดอยู่ทุกห้องแล้วเสียงปิดประตูมาจากที่ไหนล่ะ

ผมเดินนำหน้าเพื่อนส่องไฟฉายสำรวจไล่ไปทีละห้อง ซึ่งสภาพภายในห้องต่างจากอาคารแรก เพราะโต๊ะเก้าอี้นักเรียนล้มระเนระนาดเกลื่อนไปหมด

“โอ้โห เห็นอย่างนี้กูรู้เลยว่าตอนไฟไหม้ทุกคนคงหนีตายกันสุดชีวิต”ไอ้นพพูดเบาๆ แต่พอพูดจบก็มีเสียงเขียนกระดานดำดังขึ้นมา ทุกคนเงียบเพื่อฟังว่าเสียงมาจากไหนก็จับต้นเสียงได้ว่ามาจากห้องสุดท้าย พวกเรารีบเดินไปดูพอไปถึงห้องสุดท้ายเราก็ชะงักอยู่หน้าห้องเพราะบนกระดานดำมีคำว่า”ออกไป”เขียนอยู่ตอนนั้นผมเริ่มจะกลัวขึ้นมาแล้ว ใจเต้นรัวเป็นกลองเพล

“กูว่ากลับกันเถอะว่ะ มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆที่เราไปมาเลยนะมึง”ผมบอกเพื่อนสองคนที่ยืนเงียบอยู่

“แค่นี้ก็กลัวแล้วเหรอไอ้อั๋น ไอ้พวกที่มาท้าผีคนก่อนอาจจะเขียนไว้ก็ได้ แต่ถ้ามึงอยากกลับก็ตามใจ กลับก็กลับ”ไอ้นพพูดกับผมแล้วหัวเราะขำท่าทางผม

ผมสามคนเดินออกมาจากห้องแต่ระหว่างที่จะเดินไปที่บันไดก็ยังเอาไฟฉายส่องตามห้องที่พวกเราเดินผ่าน

“ฉันบอกให้พวกเธอออกไป ทำไมถึงยังไม่รีบไปอีก”เสียงผู้หญิงเหมือนไม่พอใจดังมาจากข้างหลังของเรา ผมกับเพื่อนหันขวับไปดูพร้อมกับส่องไฟฉายไปที่ต้นเสียง

คุณพระช่วย!ผมต้องตกใจขนลุกซู่ตัวแข็งอยู่ตรงนั้นเพื่อนอีกสองคนก็เป็นเหมือนกันกับผม เพราะหน้าห้องสุดท้ายที่เราเดินจากมามีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่หน้าห้องเสื้อผ้าดำเป็นหย่อมๆบางจุดเป็นรอยโดนไฟไหม้ แต่ที่น่าสยองคือเมื่อผมส่องไฟไปที่หน้าของเธอก็พบว่าครึ่งหนึ่งของใบหน้าถูกไฟไหม้จนดำเกรียม สายตาเธอจ้องเขม็งมาที่พวกผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

“ผะ…ผะ…ผี!!! อ๊ากกกก”ผมแหกปากลั่นพร้อมกับดึงมือไอ้เอ๋กับไอ้นพวิ่งลงบันไดไม่คิดชีวิต จะเรียกว่าวิ่งลงบันไดก็ไม่ถูกนัก เรียกว่ากระโดดสามทีถึงชั้นล่างเลยดีกว่า

พวกผมวิ่งจนถึงกลางสนามหน้าอาคารก็ได้ยินเสียงประตูเหล็กทางขึ้นบันไดปิดอย่างแรง ผมหันไปพร้อมกับส่องไฟดู แล้วผมก็ต้องรีบหันหน้ากลับมาวิ่งไม่คิดชิวิตอีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็นคือประตูเหล็กตรงบันไดจากที่เปิดอยู่นั้นตอนนี้ปิดอยู่ได้ยังไงไม่รู้ แล้วมีกลุ่มคนจำนวนมากอัดแน่นกันอยู่ข้างใน สภาพแต่ละคนไหม้เกรียมเป็นตอตะโกเอื้อมมือผ่านประตูลูกกรงออกมาพร้อมกับร้องกันระงม

”ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย ร้อน ร้อนเหลือเกิน โอ๊ยยยยย”

ผมกับเพื่อนรีบขึ้นรถเหยียบคันเร่งรีบออกจากตรงนั้นทันที พอถึงถนนใหญ่ผมก็เริ่มขับด้วยความเร็วปกติ เราทุกคนในรถนั่งเงียบกันหมดเพราะยังช็อคกับที่ไปพบเจอมา

ผมขับไปสักพักก็ได้ยินเสียงเคาะรถดังปึ้งๆ พอมองกระจกหลังก็ต้องตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นอีกครั้งเพราะกระโปรงรถด้านหลังมีร่างไหม้เกรียมร่างหนึ่งนั่งห้อยขาโดยหันหลังให้แต่หัวหันหน้ามาแสยะยิ้มให้ผม ผมหันกลับมาเหยียบคันเร่งจนมิดอีกครั้งแต่พอหันกลับมาก็เจอผู้หญิงหน้าเละครึ่งหน้าที่อยู่หน้าห้องที่เราเจอวิ่งปรี่เข้ามาหารถแล้วสติผมก็ดับวูบ

ผมตื่นขึ้นมาอีกวันในโรงพยาบาลปวดเนื้อปวดตัวไปหมด พอมองไปรอบๆก็เห็นไอ้เอ๋ไอ้นพนอนอยู่บนเตียงไม่ไกลนัก ผมสอบถามพยายาลว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมพยาบาลบอกว่า”คนที่โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่า คุณขับรถมาเร็วมาก แล้วอยู่ๆก็เหมือนหักหลบอะไรซักอย่างลงข้างทางไปชนต้นไม้ จากสภาพรถโชคดีที่ไม่ถึงกับเสียชีวิตนะคะ”

หลังจากออกจากโรงพยาบาลผมกับเพื่อนตัดสินใจบวชเพื่ออุทิศให้ดวงวิญญาณที่พวกผมได้ไปรบกวนในคืนนั้น และตั้งแต่นั้นมาผมกับเพื่อนก็เลิกไปลองบ้านผีเด็ดขาด

Cr.แอดมินโจ๊ย Ghost Hub