ตุลาคม 3, 2023

สาระนะ แหล่งรวบรวมข่าวสาร แห่งใหม่

สาระนะ แหล่งรวบรวมข่าวสาร แห่งใหม่ ข่าวสารทั้วไป ข่าวบันเทิง ข่าวไอที ข่าวใหม่ อัพเดททั้งวัน

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสมัยผมยังเด็กครับ ย้อนกลับ 14 ปีที่แล้ว วันหนึ่งครอบครัวผมได้ไปเที่ยวกันที่จังหวัดภูเก็ตครับ แล้วไปเจอร้านขายของเก่าอยู่ร้านหนึ่ง พ่อกับแม่ผมเข้าไปดูของกันในร้านกัน แล้วก็ไปเจอเข้ากับหุ่นลองเสื้อเต็มตัวตัวหนึ่ง (หุ่นผู้ชาย) สูงราวๆ 160 กว่าๆ ได้ในตอนนั้นบ้านผมอยู่ที่นนทบุรีครับ เพิ่งจะรีโนเวทบ้านใหม่ แม่ผมจึงอยากได้หุ่นมาตั้งโชว์ในห้องพระสักตัว เท่าที่ผมจำได้เราซื้อหุ่นนั่นมาในราคาที่ถูกมาก แต่เท่าไรจำไม่ได้ จากนั้นก็ขนกลับบ้านไป พอมาถึงบ้านก็ทำการประกอบหุ่นแล้วใส่เสื้อให้หุ่น เป็นชุดชายไทยประยุกต์ครับ เสื้อสีขาวปกปิดคอ เหมือนท่านเจ้าคุณเลย แต่ใส่กางเกง แล้วก็ตั้งไว้ในห้องพระซี่งแรกๆ ผมก็กลัวนะ แต่หลังๆ ก็เริ่มชิน เพราะมันไม่มีอะไร แค่หุ่นธรรมดาทั่วไปเท่านั้น จนเวลาผ่านไปได้ประมาณ 3 สัปดาห์ ในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นจนได้..โดยเหตุการณ์แรก ผมไม่ได้เจอเองโดยตรงหรอกนะครับ ตอนนั้นผมพาเพื่อนมาเล่นซ่อนแอบกันที่บ้าน ผมขึ้นไปแอบในห้องชั้น 3 ครับ ส่วนห้องพระที่เป็นที่ตั้งของหุ่นจะอยู่ชั้น 2 ระหว่างกำลังแอบ ผมได้ยินเสียงเหมือนว่าเพื่อนกำลังวิ่งขึ้นมาละ แต่สักพักเสียงนั้นก็วิ่งกลับลงไปด้านล่าง แล้วเสียงนั้นก็เงียบหายยาวเลย..ผมเลยชะเง้อดูที่หน้าต่างเพื่อดูหน้าบ้าน ก็เห็นว่าเพื่อนกำลังวิ่งออกจากบ้าน แล้ววิ่งกลับบ้านของเขาไป ด้วยความสงสัยผมเลยวิ่งไปตามเพื่อนครับ พอไปถึงก็ถามมันว่าทำไมจู่ๆ ถึงเลิกเล่นและกลับบ้านเฉยเลยเพื่อนผมบอกว่า ‘ไม่ไปบ้านผมแล้ว ถ้าจะเล่นก็เล่นที่อื่น..”พอผมถามเหตุผล เพื่อนผมก็เล่าว่า ตอนนั้นมันกำลังจะเดินขึ้นมาตามผมที่ชั้น 3 แต่ระหว่างทางต้องผ่านชั้น 2 ระหว่างนั้นมันเหลือบไปมองหุ่นที่อยู่ในห้องพระ ข้างๆ โต๊ะหมู่บูชา มันก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอจะวิ่งขึ้นบันไดเพื่อที่จะไปชั้น 3 มันก็ต้องหันหลังให้ห้องพระ โดยด้านหน้ามันจะมีกระจกเงาสีดำที่เป็นห้องเก็บของ จึงทำให้เห็นเงาสะท้อนไปที่ห้องพระด้านหลัง มันเล่าว่าเห็นหุ่นลองเสื้อตัวนั้นกำลังเดินย่องอย่างช้าๆ มาที่หน้าประตู..!และด้วยความตกใจมันเลยหันไปดู ปรากฏว่าหุ่นตัวนั้นย้ายที่มาจริงๆ ครับ ย้ายมาอยู่ที่หน้าประตูเหมือนกำลังจะออกจากห้องพระ..! และด้วยความตกใจเพื่อนมันเลยรีบวิ่งกลับลงไปเข้าบ้านตัวเองเลยแรกๆ ที่ฟังเพื่อนเล่าก็ไม่ค่อยอยากเชื่อหรอกครับ คิดว่าหรือเพื่อนจะแกล้งอำเล่น แต่พอผมกลับไปที่บ้าน เดินขึ้นไปดูที่ชั้น 2 มันก็จริงอย่างที่มันพูดครับ เจ้าหุ่นตัวนั้นมายืนอยู่ที่หน้าประตูห้องพระจริงๆ..! และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกครั้งแรก ที่ทำให้เรารู้ว่าหุ่นตัวนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอนพอหลังจากนั้นก็ยังมีอีกครับ มีอยู่คืนหนึ่ง ผมกำลังนอนหลับอยู่กับพ่อ แม่ และน้องชาย ส่วนพี่ชายผมโตแล้ว แม่เลยให้ไปนอนอีกห้องครับ คืนนั้นหมาที่บ้านที่ผมเลี้ยงอยู่มันเห่าอะไรไม่รู้อยู่ที่หน้าประตู แล้วสักพักก็มีเสียงข่วนประตูตามมาพ่อผมจึงตะโกนออกไปบอกให้มันเงียบๆ มันก็ไม่เงียบ และยังคงเห่าแล้วก็ขีดข่วนประตูแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนพ่อผมเลยออกไป เพื่อที่จะเอาหมาไปขังกรงซึ่งเอาไว้ที่ชั้น 2 พอขังกรงเสร็จ พ่อผมก็กลับมานอนที่ห้องครับ แต่พอนอนไปได้สักพักไม่ถึงชั่วโมง ก็มีเสียงดังอีกครับ เป็นเสียงขีดข่วน ประกอบกับเสียงเคาะประตูด้วย ซึ่งคราวนี้มันแปลกๆ ครับ เพราะว่าพ่อเอาหมาไปขังไว้อยู่ชั้น 2 แล้ว.. แล้วเสียงจะมาจากใครได้อีก?พ่อผมก็นึกว่าพี่ชายที่อยู่อีกห้องรึเปล่า ก็เลยลองตะโกนเรียกไป ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบกลับมาเลยในตอนนั้นผม น้องชาย กับแม่ก็กลัว กลัวว่าจะเป็นคนงัดบ้านเข้ามาหรือเปล่า พ่อผมก็เลยลุกขึ้นมาเอาปืนในกระเป๋าแล้วไปที่ประตูเพื่อที่จะเปิดดู พ่อผมเปิดแง้มๆ ก่อน จากนั้นพ่อก็รีบปิดประตูอย่างแรงดัง โครม..ก่อนจะล็อคประตูทันที แล้วก็บอกทุกคนว่า “อย่าไปเปิดประตู อย่าไปเปิดประตู รีบนอนๆๆ”ผมก็งงสิครับ แต่ตอนนั้นพ่อบอกให้นอนก็นอน จากนั้นผมได้ยินพ่อกับแม่คุยกันประมาณว่า”หุ่นตัวนั้นมายืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง พอพ่อเปิดประตูไปดู มันยังหันหน้ามาหาด้วย…!”คืนนั้นผ่านไปพอตอนเช้าก็เห็นว่ามีพระมาเต็มบ้านเลย พระท่านบอกแม่ผมว่าให้เอาหุ่นตัวนี้ไปไว้ที่วัด แต่ตอนนั้นพ่อผมไปทำงาน ยังไม่น่าจะเอาไปได้ทันที คงต้องเป็นพรุ่งนี้.. สรุปง่ายๆ คือ พวกเรายังต้องอยู่กับหุ่นตัวนี้ไปอีกหนึ่งคืน..วันนั้นด้วยความสงสัย ผมไปดูหุ่นตัวนั้นอีกรอบ ปรากฏว่ามันยังอยู่ในห้องพระครับ แต่ถูกมัดมือมัดขาด้วยสายสิญจน์เต็มไปหมด แม่บอกว่า “ห้ามใครไปเปิดประตูห้องพระเด็ดขาด..” แม่พูดเสร็จก็ล็อคประตูไว้อย่างแน่นหนา..จนกระทั่งคืนนั้น ซึ่งถือเป็นคืนสุดท้ายที่หลอนที่สุดสำหรับเจ้าหุ่นตัวนี้แล้วคืนนั้น พ่อ แม่ ผม และน้องชาย สัญญากันว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะไม่ออกไปจากห้อง จะนอนอยู่แต่ในห้อง และที่หน้าประตูห้องก็ติดยันต์เอาไว้ด้วย กันไว้เผื่อมีอะไรพ่อแม่บอกให้พี่ชายผมเข้ามานอนในห้องด้วยกัน แต่พี่ชายผมอายุ 20 กว่าแล้ว แกต้องการความเป็นส่วนตัวเลยอยากนอนคนเดียว ก็เลยต้องปล่อยเขาไป..คืนนั้นจำได้ว่าเป็นคืนที่เงียบมากครับ ไม่มีใครคุยกันเลย ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่าผมเผลอหลับไปตอนไหน แต่มารู้สึกตัวอีกที ก็คือได้ยินเสียงพี่ชายผมตะโกนลั่นออกมาจากห้อง ด้วยเสียงที่เหวอ เหมือนตกใจกลัวอะไรบางอย่าง ทุกคนต่างสะดุ้งตื่นกันหมดครับน้องชายกับผม ด้วยความที่ยังเด็ก ก็ร้องให้ออกมาเพราะความกลัว พ่อผมรีบลุกจากเตียงแล้ววิ่งไปหาพี่ชายผมที่อยู่ห้องข้างๆ ส่วนแม่ผมก็กอดผมกับน้องอยู่สักพักผมได้ยินเสียงพ่อผมร้องตะโกนว่า “เฮ้ย..!!”แล้วพ่อกับพี่ชายผมก็วิ่งเข้ามาในห้อง และล็อคห้องไว้ สรุปคืนนั้นเรานอนกอดกันกลมทั้ง 5 คนเลยครับมารู้เรื่องอีกทีว่าเมื่อคืนพี่ชายกับพ่อผมเจออะไร ก็จากปากแม่เล่าให้ฟังว่า..ขณะที่พี่ชายผมกำลังนอนอยู่ในห้องตามปกติ แต่แกได้ยินเสียงเหมือนคนร้องเพลงอยู่ตรงชั้น 2 เป็นเพลงภาษาอะไรไม่รู้ ประมาณภาษามลายู..จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันไดมาช้าๆ ซึ่งตอนนั้นพี่ชายผมคิดว่าเป็นเสียงผมร้องเพลงครับ เพราะว่าเสียงค่อนข้างจะเล็กๆ พี่ชายผมเลยตะโกนด่าออกไปว่า “เฮ้ยเงียบๆ หน่อยจะนอน..”แต่เสียงก็ไม่หยุดครับ แถมมีเสียงเปิดประตูห้องเข้ามา โดยระหว่างนั้นเมื่อแสงไฟจากทางบันไดหน้าห้องสาดเข้ามา พี่ชายผมพยายามเพ่งมอง แม้จะมองเห็นไม่ชัดเจน แกบอกว่า เห็นเป็นร่างคนเดินตบมือและร้องเพลงเข้ามาในห้อง ซึ่งลักษณะการเดินไม่เหมือนมนุษย์..! เพราะเดินแบบกระตุกๆ ยังไงพิกลร่างนั้นเดินปรบมือมาเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ข้างๆ เตียงที่พี่ชายผมนอน แล้วก็ร้องเพลงต่อพร้อมกับตบมือไปด้วย..!พี่ชายผมมองไม่เห็นหน้าร่างนั้นครับ เพราะว่าในห้องมืดมาก แกเลยเอามือผลักหัวมันออกไป แต่ปรากฏว่าหัวของมันหลุดออกมาและตกลงกับพื้น..!พี่ชายผมตกใจมาก ร้องเสียงดังลั่น แต่ร่างๆ นั้นก็มันยังคงร้องเพลงแล้วก็ตบมือต่อไป..แล้วสักพักพ่อผมก็วิ่งเข้ามาในห้อง พ่อบอกว่าสิ่งที่เห็นคือ เห็นหุ่นตัวนั้นยืนอยู่บริเวณข้างเตียงพี่ชายผม ในลักษณะไม่มีหัว..!และอยู่ในท่ากำลังจะตบมือแต่นิ่งสนิท..พ่อเลยรีบพาตัวพี่ชายผมไปนอนที่ห้องนอนใหญ่ทันทีแล้วเช้าวันนั้นพวกเราก็ชวนกันไปที่วัดกัน ไปนั่งสวดอะไรกันสักอย่าง ด้วยความที่ผมยังเด็กเลยจำอะไรไม่ได้ แม่เล่าให้ฟังว่า เราไปทำพิธีรับขวัญกันทั้งครอบครัวเลย ส่วนเจ้าหุ่นตัวนั้นรู้สึกว่าเขาจะเอาไปฝังดินไว้ตรงป่าช้าที่ไหนสักแห่งครับ เวลานั้นไม่ทราบแน่ชัดแต่หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมและครอบครัวก็ได้มีโอกาสกลับไปเที่ยวภูเก็ตกันอีกครั้งหนึ่ง มันน่าแปลกที่ครอบครัวผมบังเอิญได้ไปเจอลุงคนที่ขายของเก่าคนเดิมอีก (คนที่ขายหุ่นให้)แม่ผมก็เลยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ลุงคนนั้นฟัง..ลุงแกบอกว่า หุ่นตัวนั้น คนที่เอามาขายให้เป็นคนอิสลาม มารู้ทีหลังว่าที่แกขายให้ถูกๆ ก็เพราะว่าแกก็เคยเจอมาเหมือนกัน..เช่นระหว่างตั้งอยู่ที่ร้าน ก็เหมือนหุ่นมันจะมีชีวิต บางทีตั้งไว้ที่นึงแต่เกิดย้ายที่เองก็มี..!พอเหตุการณ์ผ่านไปประมาณ 10 ปี พ่อผมก็ต้องย้ายกลับไปทำเรื่องเกษียณอายุที่กรุงเทพฯ ซึ่งในตอนนั้นพวกเราก็ได้มีโอกาสไปที่วัด ที่ฝังหุ่นตัวนั้นอีกครั้งครับ..!เมื่อได้ไปคุยกับหลวงพ่อที่ทำเรื่องฝังหุ่นให้คราวนั้น..ท่านบอกว่าหลังจากที่เอาหุ่นมาฝังได้เพียง 3 สัปดาห์ เท่านั้น เจ้าหุ่นอาถรรพ์ตัวนั้นก็หายไปจากหลุมเฉยๆ..! ทุกคนต่างก็ตกใจมาก ท่านพยายามให้เด็กทั้งวัดออกตามหาแล้ว แต่ก็หาไม่เจอจนถึงปัจจุบัน ท่านยังบอกว่ามันน่าแปลก เพราะก่อนที่หุ่นตัวนี้จะมาถูกฝังอยู่ที่ตรงป่าช้านี้ มักจะมีวัยรุ่นชอบไปมั่วสุมกันตอนกลางคืน แต่หลังจากที่เอาหุ่นตัวนี้มาฝัง ก็ไม่เห็นวัยรุ่นหรือแม้แต่เด็กวัดไปเล่นตรงนั้นกันอีกเลย ซึ่งท่านก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม.?เรื่องราวความอาถรรพ์เกี่ยวกับหุ่นผีสิงตัวนั้นก็มีเพียงเท่านี้ ว่าแต่เพื่อนๆ คนไหนที่บ้านมีหุ่นลักษณะแบบที่ผมเล่าบ้างไหมครับ.. ยินดีด้วยครับ ไม่แน่หุ่นตัวนั้นอาจจะไปอยู่ที่บ้านเพื่อนๆ แล้วก็เป็นได้….

Cr : สยองขวัญวาไรตี้